พิธีสักการะพระศรีมหาโพธิ์นิพพาน

https://www.facebook.com/SiamCoin

เช้าวันนี้ผมตื่นนอนราวตีห้า และมาถึงที่วัดราชสิทธารามราชวรวิหาร ราว หกโมงเศษ วันนี้เป็นวันดีที่ พระเดชพระคุณ พระราชวิสุทธิโสภณ(ไชยวัฒน์ ชยวฑฺโฒ) ป.ธ.๙ เมตตาเป็นประธานในมงคลพิธีถวายสักการะบูชา พระศรีมหาโพธิ์ ซึ่งได้นิพพาน(ยืนต้นตาย) ณ บริเวณภายในคณะ๔  โดยมี ผู้ช่วยเจ้าอาวาส ทั้งสามรูป พร้อมด้วยคณะสงฆ์ทสมวรรค ๑๐ รูป ร่วมในมงคลพิธี

พระศรีมหาโพธิ์นิพพาน ต้นนี้ เป็นโพธิ์ ประจำพระอารามหลวงแห่งนี้มานาน มีอายุราว  ๒๐๐ ปี สันนิษฐานว่า บุรพาจารย์ได้อัญเชิญหน่อมาจากกรุงศรีอยุธยามาตั้งแต่ช่วงต้นกรุงรัตนโกสินทร์ ซึ่งในสมัยรัชกาลที่๑ ท่านได้โปรดให้สร้างพระอารามแห่งนี้ขึ้น(เดิมเรียกว่า #วัดพลับ) เพื่อให้เป็นที่จำพรรษาของ พระญาณสังวรเถร (สุก) ในกาลต่อมาท่านก็ได้รับการสถาปณาเป็น สมเด็จพระสังฆราช และย้ายไปประทับที่วัดมหาธาตุฯ

วัดราชสิทธาราม ยังมีความสำคัญมากเพราะ ในหลวงรัชกาลที่ ๓ ขณะที่ทรงผนวช ท่านได้มาประทับ ที่พระตำหนักเก๋งจีน ที่นี่ รวมไปถึง รัชกาลที่๔ ก็เคยเสด็จมาประทับเจริญวิปัสสนา เช่นกัน  นอกจากนี้ที่วัดยังมี พระเจดีย์ทรงเครื่อง (เจดีย์ที่มีสร้อยสังวาลย์ ประดับอยู่บนเจดีย์)

#พระอาจารย์ของราชวงศ์จักรี

วัดราชสิทธารามราชวรวิหารนี้ มีพระเครื่องที่มีชื่อเสียงมากคือ พระวัดพลับ กรุกระรอกเผือก และ พระสมเด็จอรหัง ที่สร้างบรรจุโดย พระสังฆราช (สุกไก่เถื่อน) ผู้ที่เป็นพระอาจารย์ (พระอุปัชฌาย์) ของสมเด็จพระพุฒาจารย์ (โต พฺรหฺมรํสี) ที่เป็นนาคหลวงบวชในวัดพระแก้วเมื่อปี พ.ศ. ๒๓๕๐ ที่เราชอบเรียกท่านว่า สมเด็จโต ผู้สร้างพระสมเด็จวัดระฆัง สิ่งหนึ่งที่คนทั่วไปจะรู้กันน้อยมากคือ สังฆราชสุกไก่เถื่อน พระองค์นี้ ท่านทรง เป็น #พระอาจารย์ของพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช(รัชกาลที่ ๑)ตั้งแต่ยังอยู่ที่วัดท่าหอย  แขวงรอบกรุงเก่า ท่านประสูติ ๕ มกราคม พ.ศ.๒๒๗๖ ในสมัย สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวบรมโกศ มีพระชันษามากกว่า รัชกาลที่ ๑ อยู่ ๔ พรรษา

#อาจารย์ผู้ประกอบพระราชพิธีอาพาธพินาศยุคห่าลงเมือง

เมื่อครั้งเกิดอหิวาตกโรคระบาดในกรุงเทพฯ เมื่อปี พ.ศ. ๒๓๖๓ มีผู้คนเสียชีวิตมากมาย ประมาณถึง สามหมื่นคนเศษ พระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัย ทรงให้ตั้งพระราชพิธีอาพาธพินาศ โดยพระองค์ทรงศีลและให้ตั้งโรงทาน ส่วนสมเด็จพระสังฆราชทรงให้สังคายนาบทสวดมนต์ในพระราชพิธีดังกล่าว

#พระสังฆราชไก่เถื่อน คือ พระนามที่ชาวบ้านมักจะเรียกท่านเพราะ ท่านมีเมตตา ทรงช่ำชองวิปัสสนาธุระถึงขนาดทำให้ ไก่ป่า เชื่องด้วยอำนาจพรหมวิหารได้ ท่านเป็น สมเด็จพระสังฆราช ลำดับที่ ๔ แห่งกรุงรัตนโกสินทร์   เนื่องจากท่านทรงเป็นพระอุปฌาย์ของสมเด็จโต จึงเป็นไปได้ที่ สมเด็จโตหลังจากบวชเป็นพระ ในฉายา  พฺรหฺมรํสี  แล้ว ในช่วงแรกท่านน่าจะอยู่เรียนศึกษาวิชาจากอาจารย์ของท่านที่วัดราชสิทธารามแห่งนี้ ตั้งแต่ปี พ.ศ.๒๓๕๐ เป็นต้นมา เพราะถ้าสังเกตจะพบว่า พระสมเด็จของ ขรัวโต มีรูปแบบละม้ายคล้ายกับ พระสมเด็จอรหัง ของ สมเด็จพระสังฆราชสุก ไก่เถื่อน

และเนื้อหามวลสารของพระสมเด็จวัดระฆัง ยังมีเนื้อหามวลสาร เหมือนดั่งเช่น พระกรุวัดพลับ (พระแตกกรุออกมาเมื่อราวปี พ.ศ. ๒๔๗๐) จึงเป็นที่เชื่อกันว่า ท่านน่าจะได้ศึกษาการสร้างพระจาก พระอุปฌาย์ของท่าน ที่วัดราชสิทธารามราชวรวิหารแห่งนี้

ในวันนี้ คณะของคุณแม่กำไล หวังประกอบกุล ได้รับความเมตตาจาก พระมหาสุรศักดิ์ ปจฺจนฺตเส ได้ร่วมเป็นเจ้าภาพประกอบพิธีเทวตาพลี บวงสรวงทวยเทพเทวาที่สถิตย์อภิรักษ์ต้นพระศรีมหาโพธิ์นี้  ตามแบบโบราณประเพณี ที่ประกอนพิธีโดย อ.กมล การกิจเจริญ ก่อนที่จะนำไม้อันมงคลนี้ไปแกะสลักเป็น พระพุทธปฏิมากรเพื่อความเป็นสิริมงคลสืบไป       

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *