เทวดาพิทักษ์ทรัพย์ เทวดามหาสมบัติ

https://www.facebook.com/SiamCoin

เทวดาองค์​นี้พระหัตถ์​ซ้ายถือพระขรรค์​ หมายถึง​การพิทักษ์​ ปกป้องรักษา​ลักษณะ​เช่นเดียว​กับเทวดาที่ปกป้องสถานที่ต่างๆ​ ในยุคก่อนที่มักจะนิยมทำเป็นเจว็ด​ไม้​เทวดาผู้พิทักษ์​ คล้ายๆตามในภาพ​ เชื่อว่ามีการสร้างมาตั้งแต่ยุคโบราณ​นับหลายร้อยปี​ ส่วนเจว็ด​ตามภาพ​ เชื่อว่า​เป็นงานช่างหลวงสร้างราวสมัย​ รัชกาล​ที่​3​ ถึง​ รัชกาล​ที่​4​ เราสามารถ​เห็นเจว็ด​แบบนี้ตาม​ ศาลหลักเมืองเก่า​  ด่านขนอนที่เก็บภาษีอากร​ แต่ในยุคต่อมาจะเริ่มสร้างโดยการหล่อเป็นรูปหล่อลอยองค์​เช่น​ ​พระสยาม​เทวาธิราช​ ในสมัยรัชกาล​ที่4​

ในพระหัตถ์​ขวาท่านถือดอกบัว​  หมายถึงความอุดมสมบูรณ์​หรือ​ทรัพย์​สมบัติ​ การเจริญงอกงาม​  บ้างก็หมายถึง​ สติปัญญา​อันเฉียบ​แหลม​, จิตใจ​ที่ผ่องแผ้วสดใสไม่มัวหมอง, ความศรัทธา​และการบรรลุธรรม

ทุกวันนี้​ถ้ากล่าวถึงเทวดาที่ถือดอกบัวและพระขรรค์​ ทุกคนจะนึกถึง​  #พระคลังมหาสมบัติ​  ซึ่งหลายคนศรัทธา​ซึ่งสร้างขึ้นในสมัยรัชกาลที่5​ ซึ่งเชื่อกันว่าท่านทำหน้าที่​เป็น​เทวดาผู้พิทักษ์​รักษา​ทรัพย์สิน​มีค่าของแผ่นดิน​ และยังเชื่อกันอีกว่า​ การบูชาพระคลังมหา​สมบัติ​อย่างสม่ำเสมอ​ จะพบความสำเร็จ​ทางด้านเงินทอง​นำมาซึ่งความเป็นสิริมงคล​มีเงินมีทองใช้ไม่ขาดสาย​ ทรัพย์​สมบัติ​เก่าอยู่​ครบและจะยิ่งพอกพูน​ร่ำรวย​มั่งคั่งตลอดไป​

คาถา​บูชาพระคลังมหา​สมบัติ​ เป็นคาถาเดียวกันกับ​ คาถาที่บูชาพระสุนทรี​วาณี​ เทพนารีแห่งปัญญา​ผู้รักษา​พระพุทธ​ศาสนา​นำพาการรู้แจ้ง​ พระคาถาในคัมภีร์​สัททาวิเสส  มีดังนี้​

มุนินทะ​  วะทะนัมพุชะ​  คัพพะสัมภะวะ​ สุนทะรี

 ปานีนัง​ สะระนัง​ วาณี​ มัยหัง  ปิณะยะตัง​ มะนัง

กล่าวกันว่า​ หากหมั่นเจริญ​ภาวนา​ จะเกิดอานิสงส์​ทางสติปัญญา​ ความทรงจำ​ โบราณ​ได้สั่งสอนให้ท่องภาวนาพระคาถานี้ก่อนจะเรียนพระไตรปิฎกตลอดมา

เจว็ด​นี้​ ชำรุด​ในบางส่วน​ จึงได้ส่งให้ครูบาอาจารย์​ผู้ชำนา​ญ​ ได้บูรณะซ่อมแซมใช้เวลาหลายเดือนกว่าจะกลับมาสง่างาม​ ดังเช่นในอดีต

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *