เชี่ยนหมากของสะสมในยุคนี้ #ของใช้สุดหวงสุดรักในยุคเก่า

https://www.facebook.com/SiamCoin

ที่วางเครื่องเชี่ยน หรือ สิ่งของที่ต้องใช้ร่วมกันของกระบวนการกินหรือเคี้ยวหมาก ในวัฒนธรรมของภาคกลางนิยมเรียกว่า #เชี่ยนหมาก  แต่ในวัฒนธรรมของชาวอีสานและชาวล้านนา นิยมเรียกว่า #ขันหมาก​ แต่ถ้าเป็นของใช้ในรั้วในวังราชาศัพท์ระดับพระมหากษัตริย์จะเรียก #พานพระศรี ระดับราชวงศ์​เรียก #พานหมากเสวย ซึ่งเชี่ยนหมาก ยังใช้ต้อนรับอาคันตุกะแขกบ้านแขกเมืองได้เป็นอย่างดีเชี่ยนหมากทำจากวัสดุหลายประเภท เช่น ทองคำ เงิน ไม้ ทองเหลือง เครื่องเขินหรือจักสาน ตัวเชี่ยนหมากมีลักษณะคล้ายๆ พานกลมแบน หรือเป็นทรงหกเหลี่ยม

เครื่องเชี่ยน ที่วางอยู่บนเชี่ยนหมาก  ขันหมาก  หรือกระบะหมาก ได้แก่

๑) #เต้าปูน หรือ บอกปูน ในภาคอีสาน นิยมทำเป็นทรงกระบอกหรือเหลี่ยมๆ

๒) #ไม้ควักปูน  สำหรับตักปูน

๓) #ซองพลู  สำหรับใส่พลูจีบ หรือ พลูที่ม้วนไว้ นิยมฉลุโปร่งเพื่อไม่ให้ใบพลูตายนึ่ง

๔) #จอกหมาก  ใช้ใส่หมากสดหรือหมากแห้ง

๕) #ตลับ หรือ ผอบ ใส่เครื่องปรุงอื่นๆ ได้แก่ การบูร  พิมเสน

๖) #กรรไกรหนีบหมาก  หรือ มีดญับหรือหินหมักมุ ของทางภาคเหนือ หรือ มีดสะนาก ของทางภาคอีสาน  สำหรับฝานหมาก

๗) #มีดเจียนหมาก  สำหรับผ่าหมากดิบและเจียนพลู

๘) #ครกตำหมาก หรือ ตะบันหมาก  สำหรับตำหมากให้แหลก  ภาคใต้เรียก ยอนหมาก หรือ ยอน  เหล็กที่ใช้ตำเรียกว่า ตายอน  ล้านนา เรียกว่า คกต๋ำปุ

การกินหมากและทำเชี่ยนหมากเกิดขึ้นเมื่อใดไม่ปรากฏแน่ชัด แต่ก็มีแพร่หลายในแถบประเทศเอเชีย เช่น จีน อินเดีย พม่า ลาว กัมพูชา เวียดนาม และไทย เป็นต้น การกินหมากในสมัยโบราณนั้นถือว่าเป็นสิ่งดีงาม เพราะคนฟันดำเป็นลักษณะของคนสวย นอกจากนี้ยังให้ความเพลิดเพลินในเวลาเคี้ยวหมาก ช่วยฆ่าเวลาและทำให้ฟันแข็งแรงทนทานอีกด้วย

แต่การกินหมากในประเทศไทยมาเลิกอย่างจริงจังในสมัยจอมพล ป.พิบูลสงคราม ที่ท่านต้องการปฏิวัติวัฒนธรรม เพราะเห็นว่าการกินหมาก เป็นสิ่งสกปรกเลอะเทอะไม่ทันสมัย เชี่ยนหมากจึงไม่ค่อยพบเห็นกันมาตั้งแต่ในครั้งนั้น ยิ่งต่อมามีหมากฝรั่งเข้ามาขาย สามารถเคี้ยวเล่นได้คนสมัยใหม่จึงไม่ลองกินหมาก ส่วนคนสูงอายุก็ค่อยๆล้มหายตายจากไปเรื่อยๆ การกินหมากจึงคงจะค่อยๆ สูญหายไปในที่สุด ตัวเชี่ยนหมากจึงไม่มีความจำเป็นอีกต่อไปเช่นกัน

การเปลี่ยนแปลง​ของวัฒนธรร​ม​ จากนโยบาย​ของรัฐบาลมีอยู่หลายครั้งเช่น​ การประกาศให้เลิกนุ่งผ้าม่วงโดยให้นุ่งกางเกงขายาวแทน​ ในปี​พ.ศ.2475 แต่ยังไม่บังคับ​ จนมาออก​ พรบ.การแต่งกายของราชการในปี​ พ.ศ.2478

ต่อมา วันที่​ 25​ มกราคม​ พ.ศ.2482  รัฐบาล​ประกาศ​ชวนให้เลิกกินหมาก​ เพราะสกปรก​(คนบ้วนน้ำหมากเลอะเทอะ)​, ฟันดำ(ยุคนี้คนชอบคนฟันขาว), หน้าจะกร้านและแก่เกินอายุ​ (สาวๆยุคนี่รับไม่ได้แน่นอน)​

หลายคนติดหมาก​ เพราะกินจนเป็นนิสัย​ ก็เดือดร้อนพอสมควร​ ใครจะกินก็ต้องระมัดระวัง​ เพราะข้าราชการ​บางคน​ จะไม่ทำงานให้ถ้าเห็นกินหมากอยู่(บันทึกเขาว่าไว้อย่างนี้)​ นายท่ารถบางที่ถ้าเห็นกินหมากก็จะไม่ให้ขึ้นรถ​  ด้วยมาตราการจริงจังของรัฐบาล​กับสังคม​ที่นิยมเปลี่ยนไป​ ทุกวันนี้เห็นคนกินหมากน้อยมาก​ ส่วนใหญ่ที่ผมเห็นคือ พระเกจิ บางรูปที่ยังคง ฉัน (กิน)หมากอยู่​

สำหรับผมเชี่ยนหมาก​ใช้สำหรับ​ งานมงคล​ และ​ จัดชุดหมากถวายเวลาไหว้ครูบาอาจารย์และสิ่งศักดิ์สิทธิ์​ครับ

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *