นารายณ์ทรงสุบรรณ

https://www.facebook.com/SiamCoin

#นารายณ์ทรงสุบรรณ

#ตำนานการเกิดพญาครุฑ

คัมภีร์ปุราณะของฮินดูเล่าถึงกำเนิดพญาครุฑไว้ว่า ครั้งหนึ่งพระทักษะปชาบดีได้ยก สิบสามนางให้พระกัศยปเทพบิดร (Kasyapa) ซึ่งธิดาสององค์ คือ #นางวินตา (Vinta) และ #นางกัทรุ (Kadru) แก่งแย่งชิงดีชิงเด่นกัน โดยนางกัทรุขอพรจากพระกัศยป ให้มีบุตรเป็นนาคหนึ่งพันตัว ส่วนนางวินตาขอพรให้มีบุตรเพียงสององค์ แต่ให้มีฤทธิ์อำนาจมากกว่าบุตรของนางกัทรุ

นางกัทรุคลอดลูกออกมาเป็นไข่หนึ่งพันฟอง เมื่อเวลาผ่านไปห้าร้อยปี ก็บังเกิดเป็นนาคหนึ่งพันตัว ส่วนนางวินตา คลอดลูกเป็นไข่สองฟอง หลังจากเวลาผ่านไปเนิ่นนานไข่ก็ยังไม่ฟักเป็นตัว นางวินตาจึงทุบไข่ใบแรกปรากฏเป็นเทพมีเพียงครึ่งองค์ ไม่มีท่อนล่าง เนื่องจากเกิดก่อนกำหนดนามว่า #อรุณเทพบุตร

พระอรุณเทพบุตร โกรธนางวินตา ที่ทำให้ตนพิการ จึงสาปให้ต้องไปเป็นทาสนางกัทรุเป็นเวลาห้าร้อยปี แต่ก็บรรเทาคำสาปว่า หากนางวินตาสามารถทนรอไปอีก ห้าร้อยปีจนไข่อีกฟองหนึ่งฟักเป็นตัว บุตรในไข่ใบที่สอง จะช่วยนางให้พ้นคำสาป

ต่อมานางวินตา และนางกัทรุแข่งพนันทายสีม้าเทียมรถทรงของพระอาทิตย์ โดยมีข้อแม้ว่าหากผู้ใดแพ้ต้องยอมเป็นทาสของอีกฝ่ายหนึ่ง นางกัทรุใช้อุบายให้นาคผู้เป็นลูกเข้าไปแทรกอยู่ในรถขนม้า เพื่อให้สีเปลี่ยนไป นางวินตาจึงแพ้พนัน กลายเป็นทาสของนางกัทรุ

หลังจากนั้นอีกห้าร้อยปี ไข่ใบที่สองก็แตกออกมาเป็นบุตรผู้มีกำลังมหาศาล มีรัศมีทองสว่างไสวกว่าพระอาทิตย์นับร้อยเท่า มีศีรษะจงอยปาก และปีกเหมือนนกอินทรี แต่ร่างกายและแขนขาเหมือนมนุษย์มีนามว่า “#เวนไตย” (แปลว่า เกิดจากนางวินตา)

 เมื่อพญาเวนไตย เติบโตขึ้น ทราบว่ามารดาตนต้องเป็นทาสของกัทรุเพราะแพ้อุบาย จึงขอไถ่ตัวนางวินตาจากเหล่านาค พวกนาคก็ยินยอม โดยมีข้อแม้ว่า พญาเวนไตย ต้องไปเอาน้ำอมฤตที่พระอินทร์เก็บรักษาไว้บนสวรรค์มาให้พวกตน

พญาเวนไตยตกลง โดยก่อนออกเดินทางได้ขอพรจากมารดา ซึ่งนางวินตา บอกว่า ระหว่างทางหากหิว ให้กินเฉพาะคนป่าเถื่อน (นิษาท) และห้ามทำอันตรายพวกพราหมณ์โดยเด็ดขาด พญาเวนไตย ก็รับคำมารดา

ในระหว่างทางเมื่อเกิดความหิวก็จับพวกนิษาทกินเป็นอาหารแต่ก็ไม่อิ่ม จึงไปจับเต่า (วิภาวสุ) และช้าง (สุประตึกะ) ซึ่งเดิมเป็นอสูรพี่น้อง แต่เกิดความโลภแย่งสมบัติกัน ต่างฝ่ายต่างสาปให้กลายเป็นเต่าและช้างที่มีขนาดใหญ่โตมาก พญาเวนไตย เอาปากคาบสัตว์ทั้งคู่บินไปเกาะกิ่งไทรที่มีความยาวถึงหนึ่งร้อยโยชน์ แต่กิ่งไทรทานน้ำหนักไม่ไหว หักลงมา พญาเวนไตยแลเห็นว่าบนกิ่งไทร มีพวกฤาษีแคระซึ่งเรียกว่า “#พาลขิยะ” มีขนาดเท่านิ้วมือ จึงเอาเท้าจับกิ่งไทร บินพาไปวางไว้ที่เขาเหมกูฏ

พวกฤๅษีเห็นว่าพญานกตนนี้มีจิตใจงดงาม จึงให้ชื่อว่า “#ครุฑ” (Garuda ภาษาเดิมอ่านว่า คะ-รุ-ทะ) แปลว่าผู้รับภาระอันหนัก ทั้งยังให้พรว่า ไม่ว่าจะทำสิ่งใดให้สำเร็จตามประสงค์ และให้มีพละกำลังมหาศาล ไม่มีผู้ใดต้านทานได้

#พระวิษณุหรือพระนารายณ์ : เทพผู้รักษาคุ้มครองโลก

คำว่า “#พระนารายณ์” หมายถึง ผู้ที่ได้เคลื่อนไหวอยู่ในน้ำ คือกำลังบรรทมอยู่เหนือหลังพญานาคราช ชาวฮินดูที่นับถือไวษณพนิกาย จะเชื่อถือว่า พระวิษณุ หรือ พระนารายณ์ นั้นจะต้องเป็นเทพสูงสุด หลักฐานตามคัมภีร์พราหมณ์ปุราณะ ได้กล่าวไว้ว่า พระศิวะได้ทรงสร้างโลกขึ้นมา แต่การที่จะรักษาโลกให้อยู่ร่มเย็นเป็นสุขเป็นเรื่องที่ยากกว่า ดังนั้นพระศิวะจึงสร้างพระวิษณุ ให้มาเป็นผู้ช่วยรักษา ในช่วงเวลาที่สร้างโลกอยู่นั้น พระนารายณ์ก็จะอวตาร เพื่อจะลงมาช่วยปราบยุคเข็ญในโลกเป็นจำนวนมากถึง 10 ครั้ง ได้แก่ อวตารเป็น ปลา เต่า หมูป่า นรสิงห์ พราหมณ์ถือขวานเพชร พราหมณ์เตี้ย พระราม พระกฤษณะ พระพุทธเจ้า บุรุษที่ชื่อกัลลี

ลัษณะของพระวิษณุ มี 4 กร ทรงถือคฑา สังข์ จักร และดอกบัว มีพาหนะเป็นครุฑ

#ตำนานพระนารายณ์ทรงครุฑ

สืบเนื่องจากพญานาค (พญาวาสุกรีและบริวาร) ต้องการดื่มน้ำอมฤตเพื่อจะได้ไม่ตายเลยทำสัญญากับพญาครุฑ (พญาสุบรรณ) ว่าหากนำอมฤตมาให้ได้จะไถ่ความเป็นทาสีแก่ครุฑและมารดาให้ พญาครุฑก็บินไปยังเทวโลก นำน้ำอมฤตออกมา พระวิษณุ(หรือพระนารายณ์)เสด็จมาพบเข้าจึงสู้รบกัน แต่ต่างไม่สามารถเอาชนะกันได้ พระวิษณุทรงพอพระทัยจึงทรงให้พรตามที่พญาครุฑต้องการ พญาครุฑขอพรสองประการคือ ขอเป็นพาหนะให้พระวิษณุในเวลาเสด็จไปยังที่ต่างๆ แต่ในยามปกติขออยู่เหนือพระวิษณุ และขอให้มีความเป็นอมตะแม้จะไม่ได้ดื่มน้ำอมฤตก็ตาม พระวิษณุก็ทรงให้พรตามที่ขอ และยังทรงอนุญาตให้สามารถจับนาคกินเป็นอาหารได้ ยกเว้น “เศษะนาค” และ “นาควาสุกรี” ซึ่งเป็นผู้เคารพในพระองค์

เมื่อพญาครุฑออกเดินทางต่อ ปรากฏว่าพระอินทร์ตามมาแย่งน้ำอมฤตคืน เกิดสู้รบกัน พระอินทร์สู้ไม่ได้ จึงทำสัญญาเป็นมิตรกัน พญาครุฑบอกให้พระอินทร์ตามไปเอาน้ำอมฤตคืนหลังจากที่ตนส่งน้ำอมฤตให้พวกนาคแล้วเมื่อพญาครุฑกลับมา ก็นำน้ำอมฤตไปไถ่ตัวมารดา แล้วออกอุบายให้พวกนาคไปชำระร่างกายก่อนดื่มน้ำอมฤต เมื่อพวกนาคหลงกล พระอินทร์ก็ทรงฉวยเอาน้ำอมฤตกลับสวรรค์

ด้วยเหตุดังกล่าว พญาครุฑจึงเป็นเทพพาหนะของพระวิษณุ ในยามที่เสด็จไปยังที่ต่างๆ ส่วนในยามปกติพญาครุฑจะอยู่บนเสาธงนำขบวนของพระวิษณุ เรียกว่า “ครุฑธวัช”

มีเชื่อกันมาว่า พระนารายณ์ทรงครุฑ หรือ พระนารายณ์ทรงสุบรรณ ให้คุณทางด้านโชคลาภ ค้าขาย และอำนาจเดชะบารมี พระนารายณ์ทรงครุฑ หมายถึง อำนาจ เชื่อว่าจะทำผู้ครอบครองมีอำนาจน่าเกรงขาม ด้วยฤทธิ์เดชแห่งองค์นารายณ์ เลยมีความเชื่อว่าหากนำมาสร้างเครื่องราง จึงมีอานุภาพสูงส่งทางด้านการคุ้มครองป้องกัน มีความรุ่งเรือง ด้วยเกียติยศ เป็นสิริมงคล ทำให้เป็นเจ้าคนนายคน มีอำนาจเหนือศัตรู เป็นที่รักของคนรอบข้างและบริวาร

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *