กัญชาในยุคเสรีประเทศไทย

#กัญชา #ยังคงเป็นยาเสพติดอยู่ แม้จะอนุญาต ให้ครอบครองปลูกได้ ขายกันได้ทั่วไป มุ่งใช้เพื่อประโยชน์ทางการแพทย์ สร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจ #ห้ามจำหน่ายใน 3 กลุ่ม คือสตรีมีครรภ์ สตรีให้นมบุตร และผู้ที่มีอายุต่ำกว่า 20 ปี ย้อนไปก่อน สมัยรัชกาลที่ ๕ ยุคที่ ภาพคนพี้กัญชา ตาลอย นั่งอยู่ตามถนนหนทาง ผู้ตนไม่เป็นอันทำงานทำการ ทำให้ กัญชาตอนนั้น กลายเป็น สิ่งที่ทำลาย ผู้คน ทำให้ร่างกายทรุดโทรม จึงได้มีการกำหนด “พระราชบัญญัติยาเสพย์ติดให้โทษ พุทธศักราช ๒๔๖๕” กัญชา จึงนับเป็นสิ่งผิดกฏหมายมานับกว่า ๑๐๐ ปี จนวันที่ ๙ มิถุนายน ๒๕๖๕ ได้มีการประกาศปลดล๊อคกัญชา ทำให้เราจะเห็น 2 ข้างทางถนน ขาย ทั้งใบกระท่อม ต้นกัญชา กันอย่าง ครึกครื้น ถ้ามองในแง่การกระตุ้นเศรษฐกิจ ก็เป็น การเอา กัญชา ที่แอบปลูก หลบซ่อน เป็นเวลานาน มาทำประโยชน์ เพราะตัวกัญชา นั้นไม่ได้มีความผิดอะไร กลับเป็นประโยชน์มากมาย ซึ่ง เป็นยาที่ เป็นตำรับ ที่ใช้มายาวนาน มีสรรพคุณ ที่ รักษาโรคได้มากมาย แต่ นั้นหมายถึง การใช้ในปริมาณที่พอเหมาะ ถูกส่วน ถูกวิธี ไม่ได้ใช้กันเพื่อการสันทนาการทำให้เกิดโทษแก่ร่างกาย เรามาย้อน #กัญชาในอดีตกัน กัญชาในสมัยกรุงศรีอยุธยา ราชฑูต ฝรั่งเศส ลาลูแบร์ ได้บันทึกถึง อุปกรณ์สูบยาของแขกมัวร์ ที่ชาวสยามนิยมใช้ เรียกว่า #มอระกู่ นอกจากใช้เพื่อเป็นความเพลิดเพลินจำเริญใจแล้ว ยังพบว่าใช้เป็นยาในตำรับยาของสมเด็จพระนารายณ์มหาราช หรือ ที่เรียกว่า #โอสถพระนารายณ์ นั่นเอง ในตำรับยานั้น มีกัญชา เป็นส่วนประกอบ ๒ ตำรับ คือ #ยาทิพเกศ และ #ยาสุขไสยาสน์ แก้อาการนอนไม่หลับ และ ระบุ ให้กินพอสมควร และสูตรยา ที่มีส่วนประกอบของกัญญา ยังปรากฏในตำรายาหลายเล่ม รวมถึง #ตำราแพทย์ศาสตร์สงเคราะห์ ซึ่งเป็นตำราหลวง สมัยรัชกาลที่ ๕ ที่มีส่วนผสมของกัญชา ถึง ๑๑ ตำรับ ครอบคลุม การรักษา ตั้งแต่ โรคระบบทางเดินอาหาร ไปจนถึงอาการปวดเมื่อย นั่นก็คือข้อดี ของกัญชา ส่วนข้อเสียนั้น ก่อให้เกิดการติดกัญชา จนมีบันทึก ใน #เอกสารวชิรญาณวิเศษ เล่าถึงมหาดเล็กวิเศษ นายหนึ่ง ติดกัญชาจนเข้าวัง ก็ต้องมวนบุหรียัดไส้ไปด้วย จึงมีคำแสลงเก๋ๆ ว่า เหน็บกริช แต่มีความอายมาก ต้องแอบซ่อนไปสูบที่ไกลคน เพราะกลัวเค้าได้กลิ่น และต่อมาในสมัยรัขกาลที่ ๖ หนังสือ #สมบัติผู้ดี ได้มีกล่าวในหมวดจริยาข้อหนึ่งว่าการจะเป็นผู้ดี ย่อมไม่มั่วสุมกับสิ่งอันเลวทราม เช่น กัญชา ยาฝิ่น และยังเห็นเรื่องราวของกัญชา อยู่ในเรื่องราววิถึชีวิตของคนโบราณ ว่ากันว่า คนใดได้ดูดดื่มกัญชา นอกจากนั่งยิ้มตาเยิ้มได้ทั้งวัน แค่เรื่องตลกฝืด ๆ เช่นพัดลมส่ายหน้า ก็ยังขำท้องคัดท้องแข็งได้ รวมถึงบุคคล สำคัญ ที่บันทึกฤทธิ์ของกัญชาไว้มากที่สุดคนนึง นั่นก็คือ สุนทรภู่ เช่นนิราศเมืองแกลง ได้ผูกกลอนกัญชา เล่าถึงอาการ ครึ้มอกครึ้มใจ ความว่า “หยุดตะพานย่านกลางบางปลาสร้อย พุ่มกับน้อยสรวลสันต์ต่างหรรษา นายแสงหายคลายโทโสที่โกรธา ชักกัญชานั่งกริ่มยิ้มละไม” #นั่นย่อมหมายว่ากัญชามีคุณประโยชน์มากมาย เป็น ยาที่มีสรรพคุณ หรือประโยชน์มากมาย แต่ถ้าหากเสพติด ดูดดื่มกับกัญชา จนเกิดโทษ จะส่งผลเสียกับร่างกายมากมาย และ มีผลต่อหน้าที่การงาน และสังคม ที่ไม่ยอมรับ และแม้จะซื้อขายได้ตามปกติ #แต่ยังถือเป็นยาเสพติด หากเสพในปริมาณมากเกินกว่ากฎหมายอนุญาต ต้องคอยระวังลูกหลาน และเยาวชนที่อยากลองกันต่อไป สามารถอ่านบทความดี ๆ และติดตามข่าวสารข้อมูลต่าง ๆ ได้จาก www.siamcoin.com

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *