#พระบาง หรือ #พระบางพุทธลาวัลย์ พระคู่บ้านคู่เมืองลาว เป็นพระพุทธรูปปางห้ามสมุทร สูงประมาณ 1.14 เมตร มีอายุอยู่ราวปลายพุทธศตวรรษที่ 18 ถึงตอนต้นของพุทธศตวรรษที่ 19 ตามศิลปะเขมรแบบบายนตอนปลาย ตามตำนานว่าพระเจ้าฟ้างุ้ม ปฐมบรมกษัตริย์ล้านช้าง ทรงอัญเชิญมาจากเมืองเขมร เคยถูกอัญเชิญมาที่ สยามถึงสองครั้ง ในสมัยกรุงธนบุรีเเละสมัยรัตนโกสินทร์ตอนต้น แต่มีการอัญเชิญกลับไปเพราะลือว่ามีอาถรรพ์ พระบางไม่ถูกกับพระแก้วมรกต
ปัจจุบันพระบางประดิษฐานที่หอพระบาง ในพระราชวังหลวงพระบาง (พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติหลวงพระบาง) ประเทศลาว แต่ก็มีข่าวลือว่ากันว่า ที่วางโชว์นั้นเป็นของจำลองมา ไม่ใช่องค์จริง
พระบางองค์จริง ลือกันว่า ที่เก็บไว้ใน #ธนาคารแห่งชาตินครเวียงจันทน์ อันเป็นความลับสุดยอดตลอดเวลาเกือบ 40 ปีที่ผ่านมา ว่ากันว่า พระบางองค์จริง พระเป็นสำริดที่ประกอบด้วยเนื้อทองคำแท้ 90% รวมน้ำหนักกว่า 50 กิโลกรัม
ภาพขาวดำคือภาพพระบางที่บันทึกไว้ราว100 ปีก่อน ส่วนภาพสีเป็นพระบางองค์ที่ใช้ในขบวนแห่ แต่องค์ที่ว่ากันว่า เป็นของจริงนั้นคือองค์ที่คนกำลังยก
#เมืองหลวงพระบาง
หลวงพระบางเป็นเมืองโบราณ เก่าแก่นับพันสามร้อยปี ตั้งแต่ครั้งยังใช้ชื่อเดิมว่า #เมืองซัว ขุนลอ โอรสของ ขุนบูลม วีรกษัตริย์ในตำนานของเผ่าไตได้ยึดเอาเมืองซัว แล้วสถาปนาขึ้นเป็นนครรัฐนาม #เชียงทอง ปกครองสืบต่อมาสิบห้ารุ่น ก่อนจะถูกอาณาจักรน่านเจ้ายึดครอง สลับเปลี่ยนมือมาถึงยุคขอมเรืองอำนาจ
จนกระทั่งพระเจ้าฟ้างุ้มประกาศเอกราชตั้งอาณาจักร ล้านช้างสถาปนาเชียงทองเป็นนครหลวง และพระเจ้าโพธิสารราชอาราธนาพระบาง อันเป็นพระพุทธรูปคู่บ้านคู่เมืองมาประดิษฐาน จึงได้นามหลวงพระบางเป็นเมืองหลวงของราชอาณาจักรลาวล้านช้างสืบต่อมา
เมื่อพระเจ้าไชยเชษฐาธิราชเสด็จนิวัติกลับมาจากปกครองนครเชียงใหม่ (ได้อัญเชิญพระแก้วมรกตมาจากเชียงใหม่ด้วย) ทรงพิจารณาว่า หลวงพระบางเป็นเมืองในหุบเขายากจะขยายให้เป็นเมืองใหญ่ จึงย้ายนครหลวงไปสร้างที่ #เมืองซายฟอง ตั้งเป็นนครหลวงเวียงจันในปี ค.ศ. 1560 ทำให้หลวงพระบางเป็นเมืองหลวงทางเหนือมีเชื้อพระวงศ์ล้านช้างปกครอง จนกระทั่งกลับมาเป็นเมืองหลวงของอาณาจักรล้านช้างหลวงพระบางอีกครั้งในสมัยที่ลาวแตกเป็นสามอาณาจักร และอยู่ในความคุ้มครอง (Protectorate) ของฝรั่งเศส ภายหลังสนธิสัญญาสยาม-ฝรั่งเศส ใน ค.ศ.1901